จำหน่ายปั๊มลมอุตสาหกรรม - ไคชัน (ประเทศไทย)

เครื่องอัดลม หรือมีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า “Air Compressor” มีหน้าที่อัดลมให้เกิดแรงดันสูงตามต้องการ เป็นประโยชน์และสามารถประยุกต์ใช้ได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบลมในโรงงานอุตสาหกรรมตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ การใช้งานระบบนิวเมติกส์ในอุตสาหกรรมเล็กๆ เช่น อู่ซ่อมรถยนต์ ร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ส่วนใหญ่จะใช้เป็นปั๊มลมประเภทลูกสูบ ที่ให้ลมน้อยเเละแรงดันลมไม่สูง ปั๊มลมประเภทนี้จึงเหมาะกับอุตสาหกรรมเล็กๆ ส่วนเครื่องปั้มลมที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม มักใช้เป็นปั๊มลมประเภทโรตารี่สกรู ที่ให้ปริมาณลมมากและให้แรงดันลมได้สูงถึง 13 บาร์

1. เครื่องอัดลมประเภทลูกสูบ (Reciprocating Air Compressor)
2. เครื่องอัดลมประเภทไดอะเฟรม (Diaphragm Air Compressor)
3. เครื่องอัดลมประเภทสกรู (Screw Air Compressor)
4. เครื่องอัดลมมประเภทใบพัดเลื่อน (Sliding Vane Rotary Air Compressor)
5. เครื่องอัดลมประเภทใบพัดหมุน (Roots Air Compressor)
6. เครื่องอัดลมประเภทกังหัน (Redial and axial flow Air Compressor)

ความนิยมของเครื่องอัดลมที่ใช้กันเป็นส่วนใหญ่ ตามอู่ซ่อมรถยนต์ อู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ และในโรงงานอุตสาหกรรม คือ เครื่องอัดลมประเภทลูกสูบ และ เครื่องอัดลมประเภทสกรู

หลักการทำงานเครื่องอัดลมลูกสูบ คือใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นต้นกำลังมาขับเคลื่อนลูกสูบให้เคลื่อนที่ขึ้นลง จึงเกิดแรงดูดเเละอัดอากาศภายในกระบอกสูบ โดยมีวาล์วทางด้านดูดและวาล์วทางออกทำงานสัมพันธ์กัน ถือเป็นปั๊มลมที่นิยมใช้งานมากที่สุด

เป็นที่นิยมในโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป เพราะให้การผลิตลมที่มีคุณภาพสูง โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นต้นกำลังในการหมุนเพลาสกรู 2 ตัว ให้หมุนเข้าหากัน ทำให้เกิดแรงอัดอากาศขึ้นมา เครื่องอัดลมแบบสกรูให้ปริมาณลมที่สม่ำเสมอกว่าแบบลูกสูบ ทั้งนี้ปริมาณลมเเละเเรงดันลมขึ้นอยู่กับกำลังของมอเตอร์เเละการออกเเบบชุดสกรู ยิ่งกำลังสูงตัวเครื่องอัดอากาศก็จะสามารถผลิตปริมาณอากาศได้มากเเละมีขนาดที่ใหญ่ตามด้วย เครื่องปั๊มลมหรือเครื่องอัดอากาศประเภทนี้ สามารถจ่ายลม 170 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที (m3/min) และสามารถทำความดันได้สูงถึง 13 บาร์เลยทีเดียว